ข้อสอบตัวแทนประกันชีวิต ชุดที่ 1 - ประกันภัย

๘ พ.ค. ๒๕๕๒

ข้อสอบตัวแทนประกันชีวิต ชุดที่ 1

1.นางสาว ก. ได้ทำประกันชีวิตตามคำชักชวนของนาย ข. ซึ่งเป็นตัวแทนประกันชีวิตของบริษัท แห่งหนึ่ง มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ไม่ได้รับการบริการที่ดีจากนาย ข. จึงได้ไปปรึกษากับนาย ค. ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทประกันชีวิตอีกแห่งหนึ่ง โดยนาย ค. ได้แนะนำให้นางสาว ก. ยกเลิกกรมธรรม์ที่ทำไว้กับบริษัทเดิม แล้วมาทำประกันชีวิตกับบริษัทใหม่ที่นาย ค. เป็นตัวแทนประกันชีวิตอยู่ และได้เสนอที่จะให้บริการที่ดี ท่านคิดว่าข้อใดถูกต้องที่สุด
คำตอบ : ง. การกระทำของนาย ข. และนาย ค. ผิดจรรยาบรรณ
2.นางสาว ก. ได้ทำประกันชีวิตตามคำชักชวนของนาย ข. ซึ่งเป็นตัวแทนประกันชีวิตของบริษัท แห่งหนึ่ง มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ไม่ได้รับการบริการที่ดีจากนาย ข. จึงได้ไปปรึกษากับนาย ค. ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทประกันชีวิตอีกแห่งหนึ่ง โดยนาย ค. ได้แนะนำให้นางสาว ก. ยกเลิกกรมธรรม์ที่ทำไว้กับบริษัทเดิม แล้วมาทำประกันชีวิตกับบริษัทใหม่ที่นาย ค. เป็นตัวแทนประกันชีวิตอยู่ และได้เสนอที่จะให้บริการที่ดี ท่านคิดว่าข้อใดถูกต้องที่สุด
คำตอบ : ง. การกระทำของนาย ข. และนาย ค. ผิดจรรยาบรรณ
3.นาย ก. เป็นตัวแทนประกันชีวิต ได้ชักชวนนาย ข. สามีของนาง จ. ทำประกันชีวิตจากข้อมูลในใบคำขอ เอาประกันชีวิต นาย ก. ทราบว่านาย ข. ไม่ได้ระบุให้นาง จ. ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตนเป็นผู้รับประโยชน์ตาม กรมธรรม์ แต่ได้ระบุให้นางสาว ฉ. ภรรยาน้อยเป็นผู้รับประโยชน์ นาย ก. จึงได้นำเรื่องนี้ไปบอกให้ นาง จ. ทราบการกระทำของนาย ก. ผิดจรรยาบรรณตัวแทนประกันชีวิตหรือไม่
คำตอบ : ง. ผิด เพราะนำเรื่องซึ่งได้รับรู้จากใบคำขอเอาประกันชีวิต ซึ่งถือเป็นความลับอันมิควรเปิดเผยของผู้เอาประกันภัยไปเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก
4.นาย ก. เป็นตัวแทนประกันชีวิต เมื่อนาย ก. รับชำระเบี้ยประกันภัยจากนาย ข. ผู้เอาประกันภัย นาย ก. เห็นว่าการชำระเบี้ยประกันภัยมีระยะเวลาผ่อนผัน 30 วัน จึงนำเงินนั้นไปใช้ส่วนตัวก่อน และนำส่งให้บริษัทในภายหลัง โดยไม่เกินระยะผ่อนผัน ท่านคิดว่า การกระทำของนาย ก. ผิดหรือไม่ ?
คำตอบ : ง. ผิด เพราะไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อผู้เอาประกันภัย และการไม่นำส่งเบี้ยประกันภัยให้บริษัทโดยทันที เป็นการไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อบริษัทฯ
5.นาย ก. ได้ทำประกันชีวิตกับนาย ข. ซึ่งเป็นตัวแทนประกันชีวิต ต่อมานาย ก. กับนาย ข. ได้มีเรื่องบาดหมางและทะเลาะกัน นาย ข. จึงไม่ดูแลกรมธรรม์ประกันชีวิตของนาย ก. และได้ให้นาย ค. ชึ่งเป็นลูกน้องของตน ดูแลแทน ดังนี้ นาย ข.ทำผิดจรรยาบรรณหรือไม่
คำตอบ : ง. ไม่ผิด เพราะนาย ข. มีอำนาจที่สามารถมอบหมายให้ลูกน้องดูแลแทนได้
6.ตัวแทนประกันชีวิตต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตต่อผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันภัย ท่านคิดว่าความหมายในข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้อง ?
คำตอบ : ง. ตัวแทน ต้องตั้งอยู่บนความถูกต้องสุจริต และทำตัวเสมือนคนกลาง ที่ไม่เอาใจไปเข้าข้างลูกค้า หรือบริษัท
7.นาย ก. เป็นตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง ได้เสนอขายแบบประกันชีวิตให้นาย ข. ผู้สนใจจะทำ ประกันชีวิต โดยได้อธิบายถึงความคุ้มครอง เงื่อนไข สิทธิ ของกรมธรรม์ประกันภัยแต่ละแบบที่บริษัทมี ปรากฏว่า นาย ข. ต้องการความคุ้มครองมากกว่าแบบประกันชีวิตที่บริษัทมี นาย ก.จึงได้เสนอแนะบริษัทให้ออกกรมธรรม์ ประกันภัยให้มีความคุ้มครองตามที่ผู้สนใจทำประกันชีวิตต้องการ ท่านคิดว่าการกระทำของนาย ก.เป็นอย่างไร
คำตอบ : ข. ถูกต้อง เหมาะสมกับการเป็นตัวแทนประกันชีวิตที่ดี เพราะไม่หลอกลวงผู้ขอทำประกันภัย
8.นาย ก. มีรายได้เป็นจำนวนเงินเดือนละ 9,000 บาท แต่นาย ข. ซึ่งเป็นตัวแทนประกันชีวิตเห็นว่านาย ค. ซึ่งเป็นบิดาของนาย ก. เป็นเศรษฐีพันล้าน จึงไปพบกับนาย ค. เพื่อเสนอทำประกันชีวิตให้กับนาย ก. โดยมีค่าเบี้ยประกันปีละ 100,000 บาท ซึ่งมากกว่ารายได้ทั้งปีของนาย ก. ดังนี้ นาย ข. ผิดต่อจรรยาบรรณตัวแทนหรือไม่
คำตอบ : ข. ไม่ผิด เพราะนาย ค. เป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยให้
9.ผู้ที่เป็นตัวแทนประกันชีวิตควรแนะนำผู้ที่จะมาเอาประกันชีวิตอย่างไร จึงจะถือว่ามีจรรยาบรรณที่ดี
คำตอบ : ข. แนะนำให้ผู้เอาประกันชีวิตเปิดเผยข้อความจริงที่เป็นสาระสำคัญเพื่อการพิจารณารับประกัน
10.ข้อใดต่อไปนี้ที่ไม่ใช่คุณสมบัติที่ดีของตัวแทนประกันชีวิต
คำตอบ : ค. ลดหรือเสนอที่จะลดค่าบำเหน็จ เพื่อจูงใจให้เอาประกันชีวิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น